ที่ว่าคนทั่วไปอาจไม่เคยเห็น ก็เพราะว่า สมัยก่อน เกาะสมุย ไม่ได้เป็นแบบที่ทุกคนรู้จักในฐานะนักท่องเที่ยว ใครจะไปนึกภาพออกว่า เคยมีชาวนาใน เกาะสมุย ด้วย แต่ผู้เขียนเองได้ยินตั้งแต่สมัยเด็ก- เดินทางมา เกาะสมุย ครั้งแรก ก็ตอนเรียน ป.4 ต้องนั่งรถไฟ จากหัวลำโพงมาลงที่สถานีพุนพิน และนั่งรถเมล์จากสถานีมาลงท่าเรือเฟอร์รี่ (แม่เล่ามา) เอ ชักเริ่มจะจำไม่ได้ ว่าตอนนั้นนั่ง เรือเฟอร์รี่ หรือ เรือนอน (เรือนอนที่ชาวบ้านเค้าใช้ขนของจากฝั่งสุราษฏร์ฯ มา เกาะสมุย กัน) แต่ที่จำได้แม่นๆ เลยคือ นอกจากการเดินทางไม่สะดวกแล้ว อาหารแบบที่คนภาคกลางกินเนี่ยจะหาไม่ได้เลยคะ จะเป็นอาหารใต้ Samui Style ไปทั้งหมด และรสชาดไม่เน้นหวาน ไม่มีแกงกะทิ จะเป็นพวกแกงเหลือง ซะมากกว่า แต่ที่เด่นแสดงวัฒนธรรมการกินของชาวภาคใต้ก็คือการกินผักกันเป็นจานหลัก ที่ว่าเป็นจานหลักเพราะเห็นปริมาณที่เค้ากินกันมากกว่ากินข้าวค่ะ ดังนั้นถ้าสังเกต จะเห็นว่าผู้แก่ผู้เฒ่าสมุยแท้ จะสุขภาพดี ร่างกายแข็งแรง และดูแล้วไม่อ้วนกันแบบชาวกรุงกันเลย ก็คงเป็นเพราะอาหารการกินที่เน้นผักกันนั่นเอง
จากที่ได้ลองเปรียบโมเดลเมืองสมุย กับ โมเดลเมืองบาหลี ความคิดเห็นส่วนตัว ค่อนข้างเสียดายความเจริญของเกาะสมุยที่เข้ามาแทรกแซงวิถีชีวิตแบบเดิมๆ ของคนท้องถิ่นไปซะหมด ในปัจจุบัน คนที่เคยประกอบอาชีพทำนาทำสวนทำไร่ได้โดยเบียดบังพื้นที่ทำกิน ราคาของพืชผลเกษตรที่ตกต่ำ ในขณะเดียวกับที่ค่าครองชีพสูงมากจนไม่สามารถจะยึดอาชีพนั้นๆ ได้อีกต่อไป ต้องแฝงตัวไปกับความเจริญทางวัตถุเรื่อยๆ
ซึ่งแตกต่างจากเกาะบาหลีอย่างสิ้นเชิง ที่คนอาชีพชาวนารวยซะยิ่งกว่าคนในอาชีพการท่องเที่ยวซะอีก Blog หน้าคงได้มีโอกาสเขียนเรื่องนี้ต่อค่า
มีวิดีโอภาพประวัติศาสตร์ที่น่าจดจำไม่รู้ลืมมาฝากกันด้วยคะ
(ขอบคุณวิดีโอจากศรีฟ้า Production ค่ะ)